IP ของคุณ: ไม่ทราบ · สถานะของคุณ: เปิดการป้องกันแล้วไม่มีการป้องกันไม่ทราบ

VPN คืออะไร

VPN ย่อมาจาก “Virtual Private Network” หรือ “เครือข่ายส่วนตัวเสมือน” ซึ่งเป็นบริการปกป้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและความเป็นส่วนตัวสำหรับโลกออนไลน์ VPN จะสร้างอุโมงค์เข้ารหัสข้อมูล และปกป้องตัวตนออนไลน์ของคุณด้วยการซ่อนที่อยู่ IP และช่วยให้ใช้ Wi-Fi ฮอตสปอตสาธารณะได้อย่างปลอดภัย

เครือข่ายส่วนตัวเสมือนตามที่ได้อธิบายไว้ในวิดีโอ

เคล็ดลับและข่าวสารด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ส่งตรงถึงคุณ

เพียงกรอกอีเมลของคุณด้านล่างนี้เพื่อติดตามข่าวสารจาก NordVPN

เราจะไม่สแปมคุณและคุณสามารถยกเลิกได้ตลอดเวลา

ประโยชน์ของ VPN

VPN จะทำให้ชีวิตดิจิทัลของคุณปลอดภัย ง่ายดาย และราบรื่นยิ่งขึ้น

VPN จะใช้เพื่อการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ

ความเป็นส่วนตัวออนไลน์

การเปลี่ยนที่อยู่ IP ซ่อนตำแหน่งที่ตั้งเสมือน และเข้ารหัสการเชื่อมต่อ จะช่วยให้คุณปกปิดตัวตนออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น

ครอบคลุมการเชื่อมต่อ VPN ทั่วโลก

การรักษาความปลอดภัยดิจิทัล

VPN ช่วยปกป้องคุณจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีระหว่างคนกลาง แพ็กเก็ตสนิฟฟิง และเครือข่าย Wi-Fi ที่เป็นอันตราย

เครือข่ายส่วนตัวเสมือนจะสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยขึ้นมา เพื่อปกป้องคุณตอนช้อปปิ้งออนไลน์

อินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้าง

พอมี VPN คุณก็สามารถหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์และข้อจำกัดบนโลกออนไลน์ต่างๆ และใช้อินเทอร์เน็ตที่เปิดกว้างได้อย่างอิสระ

การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว พร้อมการป้องกันโดย VPN และความปลอดภัยเต็มรูปแบบ

แชร์ข้อมูลอย่างปลอดภัย

แชร์ไฟล์อย่างปลอดภัยไม่ว่าที่บ้านหรือที่ทำงาน เพราะ VPN จะเข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณ ไม่ให้ผู้สอดแนมเห็นข้อมูลที่กำลังรับส่ง

ทำไมถึงต้องใช้ VPN

แม้ไม่มีอะไรจะซ่อน แต่ก็คงไม่มีใครอยากถูกติดตามและเฝ้าดู จริงไหม แค่นี้ก็เป็นเหตุผลที่ต้องยกระดับการรักษาความเป็นส่วนตัวแล้ว มาดูกันว่าเมื่อไรที่ต้องใช้ VPN:

ขณะใช้ Wi-Fi สาธารณะ

เมื่อคุณใช้ VPN เพื่อรักษาความปลอดภัยในการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi สาธารณะ จึงท่องเว็บได้อย่างเป็นส่วนตัว แฮกเกอร์มีวิธีหลายวิธีในการขโมยข้อมูลของคุณบนฮอตสปอตสาธารณะ แต่เมื่อใช้ VPN การรับส่งข้อมูลออนไลน์ของคุณจะไม่มีใครมองเห็นได้

ขณะเดินทาง

VPN ช่วยคุณเข้าถึงเนื้อหาแบบเดียวกับที่บ้านขณะเดินทางไปทั่วโลกได้ ติดตั้ง NordVPN บนอุปกรณ์ของคุณ จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเพื่อนๆ บนโซเชียลมีเดีย

ขณะท่องเว็บ

หน่วยงานรัฐบาล นักการตลาด และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต่างก็ต้องการติดตามและเก็บรวบรวมประวัติการท่องเว็บ ข้อความ และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ของคุณ จะซ่อนยังไงถึงจะดีที่สุดน่ะเหรอ ใช้ VPN เพื่อเก็บข้อมูลของคุณให้เป็นส่วนตัว

ขณะเล่นเกม

ชอบเล่นเกมออนไลน์ใช่ไหม ถ้าใช้ NordVPN ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการโจมตีแบบ DDoS และการถูกจำกัดแบนด์วิดธ์ไปเลย ใช้ฟีเจอร์ Meshnet เพื่อตั้งก๊วนเล่นเกมกับเพื่อนๆ ผ่านวงแลนเสมือนที่ปลอดภัย

ขณะช้อปปิ้ง

VPN จะช่วยหลีกเลี่ยงการกำหนดราคาตามเป้าหมาย เว็บไซต์ปลอม และการโจมตีโดยอ่อยเหยื่อแล้วเปลี่ยนเป้าหมาย ช้อปอย่างปลอดภัย สบายใจเพราะรู้ดีว่าข้อมูลบัตรเครดิตของคุณจะปลอดภัยจากผู้สอดแนม แม้ใช้งานบนเครือข่ายสาธารณะก็ตาม

ขณะสตรีมมิ่ง

รับชมรายการทีวีที่ชื่นชอบโดยไม่ลดความเร็วลง NordVPN จะช่วยให้วันชิวๆ กับภาพยนตร์เรื่องโปรดราบรื่น โดยป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจำกัดความเร็วในการเชื่อมต่อ

VPN ทำหน้าที่อะไร

VPN จะเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล ซึ่งจะทำการเข้ารหัสในระหว่างนั้น โดยทั่วไปแล้ว เวลาจะเข้าเว็บไซต์ ISP (ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต) ของคุณจะได้รับคำขอ และนำคุณไปยังปลายทาง แต่เมื่อคุณเชื่อมต่อกับ VPN ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตผ่านเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลก่อนส่งข้อมูลไปยังปลายทาง

ในขั้นแรก VPN จะซ่อนข้อมูลของคุณจากผู้สอดแนม การเข้ารหัสจึงเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องการปกป้องการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตและลดร่องรอยการใช้งานบนโลกออนไลน์ ด้วยวิธีนี้ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็จะไม่สามารถขายประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมดของคุณให้ผู้รับซื้อที่เสนอราคาสูงสุดได้

IP ของคุณ (และตำแหน่งที่ตั้งเสมือน) จะถูกซ่อนไว้ และคุณจะได้รับ IP ใหม่ที่เป็นของเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่เชื่อมต่ออยู่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าคุณท่องเว็บจากเมืองหรือประเทศไหน

ที่กล่าวมาเป็นฟังก์ชัน VPN ทั่วไป แต่ NordVPN ตั้งเป้าไว้สูงกว่านั้น เราต้องการปกป้องมากกว่าข้อมูล อุปกรณ์ของคุณก็ต้องปลอดภัยด้วย จึงพัฒนาฟีเจอร์ Threat Protection เพื่อช่วยให้อุปกรณ์ของคุณปลอดภัยจากอันตรายทางอินเทอร์เน็ตที่พบได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ในไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา เครื่องมือติดตามเว็บ โฆษณาที่รกตา และลิงก์อันตราย ไม่ต้องเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ก็ใช้งานได้ เพียงเปิดใช้งาน แล้วระบบจะปกป้องอุปกรณ์ของคุณตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันให้เอง

VPN ทำงานอย่างไร

VPN ทำงานโดยสร้างการเชื่อมต่อแบบเข้ารหัสที่ปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ของคุณและเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล เพื่อรับส่งข้อมูลได้อย่างเป็นส่วนตัว

วัตถุประสงค์ของ VPN ตามที่อธิบายไว้ในแผนภาพ
ลองใช้เวลาค้นหาว่า VPN ทำงานอย่างไร คุณจะได้ใช้ศักยภาพที่มีได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่เกิดขึ้นในเบื้องหลัง มีดังนี้
  1. เมื่อคุณเชื่อมต่อกับบริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือน ระบบจะตรวจสอบความถูกต้องของไคลเอนต์ของคุณด้วยเซิร์ฟเวอร์ VPN ก่อน
  2. แล้วจึงใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสกับข้อมูลรับส่งทั้งหมด
  3. บริการ VPN จะสร้าง “อุโมงค์” ที่มีเข้ารหัสผ่านอินเทอร์เน็ต สิ่งนี้จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลที่รับส่งกันระหว่างคุณกับปลายทาง
  4. เพื่อให้แน่ใจว่าแพ็กเก็ตข้อมูลแต่ละรายการปลอดภัย VPN จะห่อหุ้มไว้ในแพ็กเก็ตชั้นนอกอีกที จากนั้นถึงจะเข้ารหัสผ่านการห่อหุ้มข้อมูล ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของอุโมงค์ VPN ช่วยรักษาความปลอดภัยให้ข้อมูลระหว่างการถ่ายโอน
  5. เมื่อข้อมูลมาถึงเซิร์ฟเวอร์ แพ็กเก็ตชั้นนอกจะถูกนำออกผ่านกระบวนการถอดรหัส

เซิร์ฟเวอร์ VPN ทำงานอย่างไร

หลังจากสร้างอุโมงค์ VPN แล้ว อุปกรณ์จะส่งข้อมูลที่มีการเข้ารหัส (เช่น เว็บไซต์ที่ต้องการเข้าชม) ไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN โดยจะทำการถอดรหัส แล้วส่งต่อข้อมูลไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง นอกจากนี้ยังซ่อนที่อยู่ IP จริงของคุณก่อนที่จะส่งข้อมูลออกไปอีกด้วย คุณจะมีที่อยู่ IP เป็นของเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่คุณเชื่อมต่ออยู่

เมื่อเว็บเซิร์ฟเวอร์ตอบสนอง เซิร์ฟเวอร์ VPN จะเข้ารหัสข้อมูลและส่งให้คุณผ่าน ISP ไคลเอนต์ VPN ของคุณจะถอดรหัสข้อมูลทันทีที่ข้อมูลนั้นเดินทางถึงอุปกรณ์ของคุณ

การรับส่งข้อมูลผ่านอุโมงค์ VPN มีการทำงานอย่างไร

อุโมงค์ VPN จะถูกสร้างขึ้นโดยยืนยันไคลเอนต์ของคุณก่อน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตกับทางเซิร์ฟเวอร์ VPN จากนั้น เซิร์ฟเวอร์จะเลือกใช้โปรโตคอลการเข้ารหัส 1 แบบจากที่มีอยู่หลายๆ แบบ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถแอบดูการรับส่งข้อมูลที่เดินทางระหว่างคุณกับปลายทางบนโลกออนไลน์ได้

จากจุดนี้ คุณต้องจำไว้ว่าก่อนที่จะรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น ทุกๆ ข้อมูลจะถูกแยกออกเป็นแพ็กเก็ตก่อน VPN จะห่อหุ้มแพ็กเก็ตเหล่านั้นไว้ในแพ็กเก็ตชั้นนอกอีกที แล้วจึงเข้ารหัสผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การห่อหุ้มข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าแพ็กเก็ตข้อมูลแต่ละรายการปลอดภัย

แพ็กเก็ตภายนอกนี้จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลระหว่างการถ่ายโอน และถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบหลักของอุโมงค์ VPN เมื่อข้อมูลมาถึงเซิร์ฟเวอร์ VPN แพ็กเก็ตภายนอกจะถูกลบออกเพื่อเข้าถึงข้อมูลภายใน ซึ่งจะต้องใช้กระบวนการถอดรหัส

ประเภทของ VPN

VPN มีหลายประเภท แต่ส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้:

โปรโตคอลการเข้ารหัส OpenVPN

VPN ส่วนตัว

VPN เกรดผู้บริโภคส่วนใหญ่จะจัดอยู่ในประเภท VPN ส่วนตัว รวมถึง NordVPN ด้วย ซึ่งคล้ายกับ VPN ที่เข้าถึงได้จากระยะไกล แต่แทนที่จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่มีสิทธิ์จำกัด (เช่น ที่ทำงานของคุณ) คุณจะได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ผู้ให้บริการ VPN ของคุณเพื่อการปกป้องและความเป็นส่วนตัวระหว่างที่ท่องอินเทอร์เน็ต

โปรโตคอลการสร้างอุโมงค์ IKEv2/IPSec

VPN แบบหน่วยงานต่อหน่วยงาน

ธุรกิจส่วนใหญ่จะใช้ VPN แบบหน่วยงานต่อหน่วยงาน โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ใช้ในสถานที่ที่เลือกสามารถเข้าถึงเครือข่ายของแต่ละฝ่ายได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเชื่อมต่อสำนักงานทุกสาขาเข้าด้วยกัน และทำให้สำนักงานสาขาต่างแชร์ทรัพยากรและข้อมูลได้อย่างปลอดภัย

เทคโนโลยี NordLynx VPN

VPN สำหรับการใช้งานทางไกล

VPN สำหรับการใช้งานทางไกลช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับเครือข่ายจากระยะไกลได้ โดยปกติแล้วจะมีการใช้ซอฟต์แวร์พิเศษ หากต้องเข้าสู่ระบบเครือข่ายของออฟฟิศ ก็แสดงว่าคุณเคยใช้ VPN ในการเข้าถึงระยะไกลด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้การทำงานนอกสถานที่ปลอดภัยและง่ายขึ้น เพราะพนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรได้จากทุกที่

โปรโตคอลการเข้ารหัส VPN

VPN แบบไม่มีการเข้ารหัสคืออะไร นี่เป็นวิธีที่จะทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณช้าลง ความเป็นส่วนตัวและความเร็วคือเหตุผลหลักที่ผู้คนหันมาใช้ VPN เราจึงมีโปรโตคอล VPN หลากหลายแบบให้เลือกตามที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณ

โปรโตคอลการเข้ารหัส OpenVPN

OpenVPN เป็นโปรโตคอลการเข้ารหัสยอดนิยมที่ผู้ให้บริการ VPN ส่วนใหญ่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน


การปรับเปลี่ยนค่ากำหนดได้หลากหลายเป็นจุดแข็งที่สุดข้อหนึ่งของ OpenVPN นอกจากนี้ยังมีความสมดุลทั้งด้านความเร็วและความปลอดภัย เพราะใช้งานได้ทั้งบนพอร์ต TCP และ UDP แม้ว่า TCP จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า แต่ UDP ก็เร็วกว่า ผู้ใช้หลายคนจึงชอบใช้ UDP ในการเล่นเกมออนไลน์และรับชมไลฟ์สตรีมมิ่งเพื่อประสบการณ์ที่ไม่มีสะดุด

โปรโตคอลการสร้างอุโมงค์ IKEv2/IPSec

IKEv2 เป็นโปรโตคอลการสร้างอุโมงค์ ซึ่งปกติแล้วจะใช้คู่กับ IPSec เพื่อเข้ารหัส โปรโตคอลประเภทนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น ความสามารถในการคืนค่าการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยหลังจากอินเทอร์เน็ตชะงัก นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับเครือข่ายที่แตกต่างกันได้ดี โปรโตคอลนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ที่มักจะสลับการเชื่อมต่อไปมาระหว่าง Wi-Fi ในบ้านกับเครือข่ายมือถือ หรือระหว่างฮอตสปอตด้วยกันเอง

เทคโนโลยี NordLynx VPN

หากกำลังมองหาทั้งความเป็นส่วนตัวและความรวดเร็ว โปรโตคอล NordLynx จะตอบโจทย์ที่สุด นี่เป็นโปรโตคอลเริ่มต้นของเรา เป็นโซลูชันด้านเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใครโดยใช้ WireGuard ซึ่งเป็นโปรโตคอลการสร้างอุโมงค์ที่เร็วที่สุดในวงการ อะไรทำให้ WireGuard เร็วขนาดนั้น ก็เพราะโค้ดที่มีอยู่เพียง 4,000 บรรทัดไงล่ะ เมื่อเทียบกับโปรโตคอล VPN อื่นๆ ที่ประกอบด้วยโค้ดหลายหมื่นบรรทัด ก็ชัดเจนเลยว่าทำไม WireGuard ถึงเร็วอย่างน่าทึ่ง


เพื่อให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราจึงผสาน WireGuard เข้ากับระบบ NAT สองชั้นที่เราปรับแต่งขึ้นเอง ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและความปลอดภัยเต็มร้อยสำหรับผู้ใช้งาน

โปรโตคอลการเข้ารหัสสำหรับการเชื่อมต่อ VPN

L2TP/IPSec Layer 2 Tunneling Protocol (L2TP) เป็นวิธีการส่งข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกอุปกรณ์หนึ่ง เนื่องจาก L2TP ไม่มีการเข้ารหัสอะไรเลย จึงต้องทำงานควบคู่กับ Internet Protocol Security (IPSec) ซึ่งจะสร้างคีย์การเข้ารหัส เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับ VPN สิ่งนี้เป็นโปรโตคอลที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจช้ามาก เพราะต้องห่อหุ้มข้อมูลถึงสองครั้ง


PPTP ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด รองรับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์หลายพันชนิด นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม PPTP มีอายุหลายสิบปีแล้ว และไม่ปลอดภัยเท่าโปรโตคอลอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน


SSTP Secure Socket Tunneling Protocol เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับโปรโตคอลมาตรฐานในพื้นที่ที่มีการจำกัดการใช้งาน VPN เพราะสามารถข้ามไฟร์วอลล์ส่วนใหญ่ได้ SSTP มีลักษณะคล้ายกับ OpenVPN แต่เป็นของ Microsoft ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถขอตรวจสอบอิสระได้

ฉันควรพิจารณาอะไรเมื่อเลือก VPN

เครือข่ายส่วนตัวเสมือนมีความแตกต่างในด้านค่าใช้จ่าย ความเป็นส่วนตัว ความเร็วของเซิร์ฟเวอร์ และความปลอดภัย

ความเร็ว ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว

ผู้คนหันมาใช้ VPN ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน และไม่ว่าเหตุผลของคุณจะเป็นอะไร ก็ต้องถามคำถาม 3 ข้อนี้ให้ได้ก่อนเลือกผู้ให้บริการ เร็วแค่ไหน จะรักษาข้อมูลให้ปลอดภัยหรือเปล่า และจะเคารพความเป็นส่วนตัวหรือไม่ แน่นอนว่า คุณต้องการให้การเชื่อมต่อปลอดภัย และข้อมูลของคุณมีความเป็นส่วนตัวด้วย แต่จะทำได้ทุกอย่าง โดยความเร็วไม่ตกด้วยหรือเปล่า นี่แหละคือประเด็น ดังนั้น เวลาที่คุณจะเลือกบริการ VPN เช็คให้ดีว่าไม่มีการลดคุณภาพในด้านใดลง เพราะถ้าคุณจะเข้าเว็บไซต์อะไรแล้วกลับช้าจนเข้าไม่ได้ การเข้ารหัสชั้นยอดก็เปล่าประโยชน์

การประเมินคุณภาพ VPN ที่แตกต่างกัน

จ่ายกับฟรี อะไรดีกว่า

ราคา VPN เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด ถ้ามีของฟรี คนก็จะสนใจทันที แต่พอพูดถึง VPN ฟรีแล้วล่ะก็ คุณควรอยู่ห่างๆ ไว้จะดีกว่า ถ้าคุณกำลังมองหาความเร็ว ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว และต้องเป็น VPN ฟรีด้วยอยู่ล่ะก็ บอกเลยว่าไม่มีแน่นอน ผู้ให้บริการเหล่านี้มักจะไม่ลงทุนในเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง การเชื่อมต่อ VPN ดังกล่าวอาจไม่เสถียร และทำให้ที่อยู่ IP ของผู้ใช้รั่วไหล ผู้ให้บริการเหล่านี้ยังต้องหาเงินด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ซึ่งในบางกรณีก็อาจเลือกที่จะขายข้อมูลของผู้ใช้ แทนที่จะมองหาตัวเลือกที่ถูกที่สุด ให้หาผู้ให้บริการ VPN ที่คุณเชื่อถือได้ดีกว่า

ตั้งค่าการเชื่อมต่อ VPN

คุณตั้งค่าบัญชี NordVPN ได้ 2-3 ทาง รับการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสทุกที่ที่คุณไป มาอินเทรนด์กับการปกป้องด้วย VPN กันดีกว่า:

เปิดใช้งานการเชื่อมต่อ VPN ผ่านแอป NordVPN บนโทรศัพท์มือถือ

ใช้แอป VPN

NordVPN มีแอปสำหรับทุกแพลตฟอร์มหลักๆ ไม่ว่าคุณจะใช้ Mac, แท็บเล็ต Android, หรือโน๊ตบุ้คที่ใช้ Windows เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนไม่ควรต้องเจอกับปัญหาในการปกป้องเครือข่ายที่บ้านและบนอุปกรณ์มือถือของตัวเอง ดังนั้น แอปของเราจึงเป็นมิตรกับผู้ใช้อย่างยิ่ง

กำหนดค่าด้วยตนเอง

ถ้าเชี่ยวชาญอยู่แล้ว คุณก็ตั้งค่า VPN ตามที่ต้องการได้เช่นกัน พึงระลึกไว้ว่า – การตั้งค่าด้วยตนเองจะใช้เวลามากกว่า แล้วก็มีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ไม่ต้องห่วง – หากคุณต้องการความช่วยเหลือ ก็เปิดบทสอนใช้งานโดยละเอียดในศูนย์ช่วยเหลือของเรา

ติดตั้งบนเราเตอร์ของคุณเลย

ติดตั้ง NordVPN บนเราเตอร์ Wi-Fi ของคุณแล้วอุปกรณ์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์นั้นจะได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัสที่ไม่มีอะไรเจาะได้ ขั้นตอนนี้อาจดูซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้ใช้มือใหม่ แต่พอคุณติดตั้งเสร็จแล้ว ก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ปลอดภัยไม่มีอะไรสะดุด

คำถามที่พบบ่อย

อัปเดตล่าสุดวันที่ 13 มิถุนายน 2022