IP ของคุณ: ไม่ทราบ · สถานะของคุณ: เปิดการป้องกันแล้วไม่มีการป้องกันไม่ทราบ

การเข้ารหัสยุคใหม่ด้วย NordVPN

ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลด้วยการเข้ารหัส

การเข้ารหัส NordVPN

การเข้ารหัส VPN คืออะไร และทำไมถึงควรเข้ารหัสข้อมูลออนไลน์

การเข้ารหัส VPN จะแปลงข้อมูลออนไลน์ของคุณให้เป็นเนื้อหาที่อ่านไม่ได้หากไม่มีคีย์ที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ 3 เปิดดูหรือนำไปใช้ในทางที่ผิด คุณต้องมีบริการ VPN ที่มีการเข้ารหัสเพื่อปิดช่องโหว่นี้

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะติดตามข้อมูลการรับส่งอินเทอร์เน็ตของคุณ และขายข้อมูลให้ผู้ลงโฆษณา

แฮ็กเกอร์

แฮ็กเกอร์จะใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัย เพื่อเจาะเข้าไปในโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของคุณ

รัฐบาล

รัฐบาลสามารถขอหลักฐานบันทึกกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้

มาดูกันว่าข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยได้อย่างไร

ข้อมูลของคุณอาจมีความเสี่ยง ถึงจะป้องกันไว้อย่างดีแล้วก็ตาม

Data exposing without encryption


ข้อมูลของคุณก็มีความเสี่ยงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว


เมื่อเชื่อมต่อกับเว็บ การรับส่งข้อมูลทุกอย่างจะต้องผ่านผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) นี่คือวิธีการทำงานของอินเทอร์เน็ต ในการเข้าถึงเว็บไซต์ คุณต้องส่งคำขอไปยัง ISP ซึ่งจะนำคุณไปสู่จุดหมายปลายทาง ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่คุณทำทางออนไลน์ทุกอย่างจึงเป็นหนังสือที่เปิดอ้าไว้ให้ ISP ดู


ไม่มีอุปสรรคทางเทคโนโลยีอะไรที่ป้องกันไม่ให้ ISP ติดตามและบันทึกพฤติกรรมออนไลน์ของคุณได้ รวมถึงการขายข้อมูลให้กับผู้ลงโฆษณา หรือส่งมอบให้กับทางการ ISP ที่มีจริยธรรมซึ่งปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้านั้นมีน้อยมาก และแม้ว่า ISP ของคุณจะน่าเชื่อถือ แต่รัฐบาลก็สามารถบังคับให้ส่งมอบประวัติการเข้าชมของคุณได้อยู่ดี


เว้นแต่ว่าคุณจะใช้ VPN


Virtual Private Network (VPN) จะกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณผ่านช่องทาง VPN ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อที่มีเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ของคุณและปลายทางบนเว็บ ช่องทาง VPN ไม่เพียงเข้ารหัสข้อมูลของคุณเท่านั้น แต่ยังซ่อนที่อยู่ IP และตำแหน่งที่ตั้งของคุณด้วย เช่นเดียวกันกับรถตู้หุ้มเกราะที่จะพาคุณออกจากจุด A ไปยังจุด B โดยเป็นความลับทั้งหมด ซึ่งจะปกป้องคุณจากอันตรายที่แฝงตัวอยู่ภายนอก

การเข้ารหัสของ NordVPN มีการทำงานอย่างไร

สาระสำคัญของการรักษาความปลอดภัยออนไลน์

NordVPN encryption workflow diagram


อุปกรณ์ของคุณ (คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ฯลฯ) จะเริ่มการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN เมื่อตรวจสอบสิทธิ์อุปกรณ์แล้ว NordVPN จะสร้างช่องทางที่มีการเข้ารหัส


ทุกข้อมูลที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ตจะต้องแยกออกเป็นแพ็กเก็ต ดังนั้น ข้อมูลส่วนตัวจะถูกแยกออก ห่อหุ้ม และส่งผ่านช่องทาง VPN ที่มีการเข้ารหัส เมื่อข้อมูลมาถึงเซิร์ฟเวอร์ VPN แพ็กเก็ตภายนอกจะถูกลบออกเพื่อเข้าถึงข้อมูลภายในผ่านการถอดรหัส


ข้อมูลที่มีการเข้ารหัสจะไม่มีประโยชน์ต่อผู้สังเกตการณ์บุคคลที่ 3:


ทั้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและแฮ็กเกอร์จะไม่สามารถอ่านข้อมูลได้ แม้ว่าจะดักจับข้อมูลได้ก็ตาม


ไม่มีรัฐบาลไหนสามารถเอาบันทึกประวัติการท่องเว็บของคุณไปได้ เพราะไม่มีบันทึกอยู่จริงๆ


คุณมีบางอย่างที่ต้องซ่อน แม้จะคิดว่าไม่มีอะไรให้ต้องซ่อนก็ตาม

การที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไปทำอะไรไม่ดี

ISP กำลังติดตามผู้ใช้ออนไลน์ผ่าน IP

คุณอาจไว้วางใจรัฐบาลหรือ ISP ของคุณ แต่การเชื่อใจทุกคนบนโลกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องฉลาดสักเท่าไร อาชญากรไซเบอร์จะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทุกประเภทเพื่อเข้าถึงข้อมูลของคุณ หากไม่ปกป้องอะไรเลย ก็เหมือนส่งมอบข้อมูลของคุณให้พวกผู้ไม่หวังดีโดยตรง

พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าจะใช้อินเทอร์เน็ต ก็ต้องใช้การเข้ารหัส VPN ยุคใหม่

รับการเข้ารหัสระดับสูงสุดด้วย NordVPN

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยชั้นนำของโลกไว้วางใจ

รางวัล ProPrivacy สาขาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดโดยรวมประจำปี 2019

NordVPN สร้างชื่อเสียงมาจากการทำงานหนักและทุ่มเทเป็นปีๆ เพื่อพยายามทำให้ประสบการณ์ออนไลน์ของคุณเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากที่สุด

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี เช่น CNET, PCMag และ BestVPN ได้ยกให้ NordVPN เป็นผู้ให้บริการการเข้ารหัสรุ่นใหม่ที่แทบจะไม่สามารถตรวจสอบได้

แต่ถ้าไม่มีการเข้ารหัส การรับส่งข้อมูลของคุณก็จะไม่ปลอดภัย บุคคลที่ 3 จะเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการทั้งที่ชอบและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระบบจะตั้งข้อมูลเป็นแบบสาธารณะตามค่าเริ่มต้น คุณต้องลงมือทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเป็นส่วนตัว และทำได้ด้วย NordVPN

มาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง (AES)

การรักษาความปลอดภัยออนไลน์แน่นหนา ใช้เวลานับพันล้านปีก็ไขไม่ได้

การเข้ารหัส AES VPN เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

AES คืออะไร

AES เป็นมาตรฐานการเข้ารหัสที่รัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้ที่ชื่นชอบการเข้ารหัสใช้ และได้รับการรับรองอย่างกว้างขวางทั่วโลก NordVPN ใช้ AES ที่มีคีย์ 256 บิต ซึ่ง NSA แนะนำเพื่อการรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลลับ รวมถึงความลับระดับสูงสุด

เซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ทำงานด้วยการเข้ารหัสแบบ AES

AES มีความปลอดภัยแค่ไหน

ในทางปฏิบัติแล้ว ไม่มีการโจมตีไหนที่สามารถทำลายการเข้ารหัสนี้ได้ หากใช้การโจมตีแบบบรูทฟอร์ซ ซึ่งหมายถึงการลองป้อนอักขระผสมที่เป็นไปได้ทั้งหมดในช่องรหัสผ่าน ก็จะต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าที่มนุษยชาติมีอยู่ในปัจจุบัน ตอนนี้ ไม่มีที่ไหนในจักรวาลนี้ที่จะถอดรหัสการเข้ารหัส AES 256 บิตได้

หมายเลข 256 หมายถึงขนาดคีย์ ดังนั้น 256 บิตจึงมีชุดค่าผสมที่เป็นไปได้จำนวน 1.1 × 1077 ถึงจะจริงที่ว่าคีย์อะไรก็ตามจะถูกทำลายได้ถ้ามีทรัพยากรเพียงพอ แต่ AES ที่มีคีย์ 256 บิตนั้นโหดเกินกว่าที่ไหนจะมีทรัพยากรแบบนั้นได้แน่นอน ในการแกะรหัส คุณจะต้องสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งยังไม่สามารถสร้างได้ในขณะนี้ แล้วทำการถอดรหัส ซึ่งจะใช้เวลาหลายพันล้านปี

NordVPN ใช้โปรโตคอล VPN ที่แตกต่างกัน 3 แบบ

NordVPN จะสร้างช่องทางเพื่อส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN อย่างปลอดภัย NordVPN ใช้โปรโตคอลความปลอดภัยที่แตกต่างกัน 3 แบบ เพื่อพิจารณาว่าช่องทางนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

NordVPN ผ่านโปรโตคอล IKEv2/IPsec

IKEv2/IPsec

การรักษาความปลอดภัยให้กับอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (IPsec) จะทำงานร่วมกับ Internet Key Exchange (IKEv2) เวอร์ชันใหม่ล่าสุด เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ความเสถียร และความเร็ว IKEv2/IPsec จะใช้อัลกอริทึมและคีย์การเข้ารหัสที่ทรงพลัง ซึ่งซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถถอดรหัสได้

ด้วยพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความก้าวหน้าในการเข้ารหัส ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญคือต้องนำหน้าไปหนึ่งก้าวเสมอ นั่นเป็นเหตุผลที่ NordVPN ใช้ Next Generation Encryption (NGE) ที่ประยุกต์ใช้กันได้กับ IKEv2/IPsec ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเร็วแค่ไหน คุณก็จะได้ใช้การเข้ารหัสที่ทันสมัยอยู่เสมอ

NordVPN ผ่านโปรโตคอล OpenVPN

OpenVPN

OpenVPN เป็นโปรโตคอลความปลอดภัยที่มีความสามารถรอบด้านมากมาย ซึ่งคุณใช้ได้ทั้งกับพอร์ต UPD และ TCP เพื่อการท่องเว็บ เล่นเกม และไลฟ์สตรีมมิ่งอย่างปลอดภัย เพื่อรับประกันการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน NordVPN จึงใช้อัลกอริทึมการเข้ารหัส AES-256-GCM พร้อมด้วยคีย์ DH 4096 บิต

ชุมชนความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกมีส่วนได้ส่วนเสียใน OpenVPN เนื่องจากมีรหัสโอเพ่นซอร์ส ซึ่งสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้อย่างอิสระ ด้วยการรายงานข้อบกพร่องใหม่ๆ ทุกอย่าง ช่องโหว่ใหม่ๆ ที่พบ พร้อมโค้ดทุกบรรทัด โปรโตคอลความปลอดภัยนี้จะแข็งแกร่งขึ้นและดียิ่งขึ้น เติบโตบนความโปร่งใส

NordLynx ผ่านโปรโตคอล Wireguard

NordLynx

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี VPN Wireguard®* คือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด และเป็นโปรโตคอลที่รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งใช้การเข้ารหัสระดับสูงสุด และประกอบด้วยโค้ดเพียง 4000 บรรทัด (น้อยกว่า OpenVPN 100 เท่า) ง่ายต่อการปรับใช้ ตรวจสอบ และแก้ไขข้อบกพร่อง

ความผิดพลาดในเกราะป้องกันของ Wireguard คือการที่ไม่สามารถรับรองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราพัฒนาระบบ NAT (Network Address Translation) 2 ชั้นขึ้นบนแบ็กโบนของไวร์การ์ด ซึ่งจะทำให้การรักษาความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่อ VPN เกิดขึ้นได้ และไม่มีการเก็บข้อมูลที่ระบุตัวตนได้บนเซิร์ฟเวอร์ VPN นั่นคือ NordLynx ซึ่งเป็นโซลูชั่น VPN ที่ปลอดภัยและเร็วที่สุดในตลาด

*WireGuard® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Jason A.Donenfeld

ประสบการณ์ Triple-S VPN – ความเร็ว ความปลอดภัย ความเรียบง่าย

ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว ทั้งยังเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดด้วย

ไม่ต้องเป็นนักเข้ารหัสมืออาชีพ ก็ใช้ NordVPN ได้ เพียงดาวน์โหลดแอป เข้าสู่ระบบ แล้วเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเราเลย เพียงคลิกเดียว ก็เข้ารหัสข้อมูลส่วนตัวของคุณได้

NordLynx เป็นโซลูชั่น VPN ใหม่ล่าสุดจากเราที่มาพร้อมกับความเร็วสูงสุดและความปลอดภัยที่หนาแน่น มีให้บริการแพลตฟอร์มหลักๆ ทุกแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ ผู้ใช้ iOS และ macOS ยังเลือกใช้ระหว่างโปรโตคอล IKEv2/IPsec และ OpenVPN ได้ ส่วนผู้ใช้บน Windows, Android และ Linux จะใช้ OpenVPN ได้

ที่เด็ดไปกว่านั้น NordVPN มีชุดฟีเจอร์เสริมความปลอดภัยและความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น Threat Protection ที่ป้องกันมัลแวร์และอันตรายหลากหลายรูปแบบ Meshnet ที่ลิงก์กับอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อแชร์ไฟล์หรือเล่นเกมอย่างปลอดภัยได้โดยตรง และอีกมากมาย

คุ้มค่ากว่าเมื่อใช้ NordVPN

บล็อคโฆษณาที่รุกล้ำ เว็บไซต์อันตราย และมัลแวร์

คำถามที่พบบ่อย

เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อประสบการณ์ที่ปลอดภัยและเหมาะกับคุณมากขึ้น การยอมรับจะถือว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้สำหรับการโฆษณาและวิเคราะห์ตามนโยบายคุกกี้ของเรา