IP ของคุณ: ไม่ทราบ · สถานะของคุณ: เปิดการป้องกันแล้วไม่มีการป้องกันไม่ทราบ

สามารถถูกติดตามผ่าน VPN ได้หรือไม่?

ด้วย VPN การเข้าชมเว็บไซต์และที่อยู่ IP ของคุณจะไม่สามารถถูกติดตามได้อีกต่อไป แต่ VPN นั้นรับประกันการไม่เปิดเผยตัวตนทางดิจิทัลของคุณหรือไม่? คนอื่นยังคงสามารถสอดแนมกิจกรรมการท่องเว็บของคุณได้หรือไม่? ส่วนใหญ่แล้วสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคุณทางออนไลน์และความน่าเชื่อถือของ VPN

Ugnė Zieniūtė

Ugnė Zieniūtė

สามารถถูกติดตามผ่าน VPN ได้หรือไม่?

VPN ปิดบังอะไรบ้าง?

เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN (หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน) ที่อยู่ IP ของคุณจะเปลี่ยนไป และการรับส่งข้อมูลบนอุปกรณ์ของคุณจะถูกเข้ารหัส การเปลี่ยนที่อยู่ IP จะเปลี่ยนตําแหน่งที่ตั้งซึ่งเชื่อมโยงกับคุณทางออนไลน์: หากคุณใช้อินเทอร์เน็ตในออสเตรเลีย แต่คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในสหรัฐอเมริกา จะปรากฏเสมือนว่าคุณออนไลน์จากตำแหน่งที่ตั้ง IP ของอเมริกา ในขณะเดียวกันการเข้ารหัสจะกระจายข้อมูลออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทําให้บุคคลที่สามไม่สามารถอ่านข้อมูลได้ หากคุณใช้บริการ VPN ที่น่าเชื่อถือ ผู้สอดแนมจะไม่สามารถอ่านข้อมูลกิจกรรมการท่องเว็บของคุณได้

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถูกติดตามทางออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เว็บไซต์ และแม้กระทั่งรัฐบาลสามารถรับรู้ได้ว่าคุณกําลังใช้ VPN อยู่หรือไม่ พวกเขาอาจไม่ทราบว่าคุณกําลังทําอะไรอยู่ออนไลน์ แต่พวกเขาจะสามารถตรวจจับ VPN ได้ ดังนั้น VPN สามารถถูกตรวจพบได้อย่างไร?

จะถูกติดตามได้หรือไม่หากใช้ VPN?

ไม่เลย การรับส่งข้อมูลและที่อยู่ IP ของคุณจะไม่สามารถถูกติดตามได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามหากคุณใช้ VPN ที่มีคุณภาพต่ำ คุณยังคงสามารถถูกติดตามได้ VPN ที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจะเข้ารหัสข้อมูลและซ่อนที่อยู่ IP ของคุณโดยกําหนดเส้นทางกิจกรรมของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ถึงแม้ว่าจะมีคนพยายามติดตามคุณ สิ่งที่พวกเขาจะเห็นก็คือที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN และข้อมูลที่อ่านไม่ได้อย่างสมบูรณ์

ใช้ VPN ฟรี จะถูกติดตามได้หรือไม่?

VPN ฟรีจําเป็นต้องสร้างรายได้ของพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง และมักจะทําเช่นนั้นโดยการขายข้อมูลของคุณให้กับบุคคลที่สาม VPN ฟรีบางตัวจะตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลการเชื่อมต่อทั่วไปของคุณ ซึ่งรวมถึงที่อยู่ IP ของคุณ ที่อยู่ IP ของเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม เวลาการเชื่อมต่อ และปริมาณข้อมูลที่ถ่ายโอน อย่างที่คุณเห็น การติดตามข้อมูลนี้จะเปิดเผยถึงทุกสิ่งที่คุณดำเนินการออนไลน์ และไม่ได้มอบความเป็นส่วนตัวให้กับคุณ ซึ่งทําให้วัตถุประสงค์ของการใช้ VPN นั้นไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสามารถติดตาม VPN ได้หรือไม่?

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของฉันจะเห็น VPN ของฉันหรือไม่? ในขณะที่ใช้ VPN ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณจะเห็นแค่เพียงว่าข้อมูลที่เข้ารหัสกําลังเดินทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ พวกเขาจะไม่เห็นเนื้อหาของการรับส่งข้อมูลของคุณหรือสถานที่ที่ข้อมูลที่เดินทางไปและเดินทางกลับ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณจะไม่สามารถเห็นเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมหรือเห็นสิ่งที่คุณทําออนไลน์ได้ในขณะที่คุณเชื่อมต่อกับ VPN ได้อีกด้วย

สามารถถูกติดตามได้หรือไม่ ถ้าใช้ VPN แล้วการเชื่อมต่อหลุดไป?

ข้อมูลของคุณจะถูกเปิดเผยอีกครั้งหากการเชื่อมต่อกับ VPN ของคุณหลุดไป ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณจะสามารถเห็นสิ่งที่คุณกําลังทําออนไลน์รวมถึงเว็บไซต์ที่คุณกําลังเข้าชมได้ VPN ระดับพรีเมียมมาพร้อมกับคุณสมบัติ kill-switch ซึ่งจะทําให้อุปกรณ์ทั้งหมดของคุณออฟไลน์ในทันที หากการเชื่อมต่อกับ VPN ของคุณหลุดไป

VPN บางตัวอาจเปิดเผยที่อยู่ IP จริงของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจผ่านการรั่วไหลของ DNS NordVPN ป้องกันการรั่วไหลของ DNS โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS ของเราเองโดยเฉพาะ

คุณอาจถูกติดตามได้หากคุณใช้บริการ VPN ฟรี หากคุณไม่ได้จ่ายเงินสําหรับ VPN นั้น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ให้บริการ VPN กําลังบันทึกกิจกรรมของคุณและขายข้อมูลที่มีค่านี้ให้กับบุคคลที่สามก็เป็นได้

VPN ของคุณสามารถถูกตรวจพบได้อย่างไร?

VPN ที่ดีที่สุดจะไม่อนุญาตให้ IP ของคุณระบุตัวตนของคุณ อย่างไรก็ตาม มีวิธีในการตรวจพบการรับส่งข้อมูล VPN:

  • ที่อยู่ IP ของ VPN ซึ่งที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN นั้นจดจำได้ไม่ยาก โดยมีแม้กระทั่งฐานข้อมูลพิเศษในการตรวจจับ VPN ซึ่งพยายามค้นหาว่า IP เป็นของผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่งหรือไม่ เมื่อคุณเข้าถึงเว็บไซต์โดยเปิดใช้งาน VPN บุคคลอื่นอาจสามารถตรวจพบได้ว่าคุณกําลังใช้ VPN จาก IP ของคุณ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์จะทราบตัวตนของคุณซึ่งอยู่เบื้องหลังที่อยู่ IP โดยจะรู้ได้แค่เพียงว่าคุณกําลังใช้ VPN อยู่
  • หมายเลขพอร์ต โปรโตคอล VPN บางตัวใช้หมายเลขพอร์ตเฉพาะเพื่อสร้างการเชื่อมต่อ ตัวอย่างเช่น OpenVPN (UDP) มักจะใช้พอร์ตหมายเลข 1194 ในขณะที่ OpenVPN (TCP) มักจะใช้พอร์ต 443 ดังนั้นหมายเลขพอร์ตสามารถระบุประเภทของการเชื่อมต่อ VPN ที่คุณใช้ได้
  • การตรวจสอบแพ็คเก็ตแบบลึก ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบโครงสร้างของแต่ละแพ็กเก็ตข้อมูลที่ส่งผ่าน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมายในการใช้งาน เช่น การบล็อกสแปมหรือมัลแวร์ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ยังสามารถถูกใช้เพื่อระบุการรับส่งข้อมูล VPN ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนใช้เพื่อบล็อก VPN นั่นเอง

ใครสามารถติดตามสอมแนมคุณทางออนไลน์ได้บ้าง?

เมื่อออนไลน์ คุณสามารถถูกติดตามได้โดย:

  • ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสามารถดูสิ่งที่คุณทําออนไลน์และลดความเร็วในการรับส่งข้อมูลของคุณได้ อย่างไรก็ตาม VPN จะซ่อน IP ของคุณ เข้ารหัสการรับส่งข้อมูลของคุณ และปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของคุณ
  • หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน พวกเขาสามารถติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือผู้ให้บริการออนไลน์เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับคุณหรือใช้วิธีการติดตามของตนเอง
  • อาชญากรไซเบอร์ พวกเขาสามารถติดตามคุณและขโมยข้อมูลของคุณโดยการดักจับการรับส่งข้อมูลของคุณผ่าน Wi-Fi สาธารณะ อย่างไรก็ตาม VPN จะปกป้องคุณจากสิ่งนี้โดยการเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ถึงแม้ว่า Wi-Fi ที่คุณกําลังเชื่อมต่อจะถูกบุกรุก แต่ข้อมูลของคุณจะยังคงได้รับการคุ้มครอง

ต่อไปนี้คือบางวิธีการที่คุณสามารถถูกติดตามทางออนไลน์ได้ ถึงแม้ว่าคุณจะใช้ VPN ก็ตาม:

  • คุกกี้ เว็บไซต์มักใช้คุกกี้เพื่อทําให้ประสบการณ์ในการท่องเว็บของคุณราบรื่นมากยิ่งขึ้น คุกกี้คือโค้ดส่วนเล็ก ๆ ที่ถูกดาวน์โหลดและจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของคุณเมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ สิ่งนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถติดตามคําขอของคุณได้ คุกกี้คือเหตุผลที่ตะกร้าสินค้าออนไลน์ของคุณไม่ถูกล้างในทุกครั้งที่คุณรีเฟรชหน้า คุกกี้ของบุคคลที่สามมักจะถูกใช้สําหรับการโฆษณาและสามารถระบุและติดตามคุณในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ โชคดีที่มีวิธีการบล็อกพวกมันอยู่หลายวิธี
  • ลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์ เบราว์เซอร์ที่คุณใช้สามารถเปิดเผยข้อมูลมากมายเกี่ยวกับตัวคุณได้ ซึ่งได้แก่ ส่วนขยายที่คุณมี ความละเอียดของหน้าจอ ระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งานอยู่ ข้อมูลประเภทนี้สามารถสร้างตัวระบุตัวตนเฉพาะได้ แต่มันจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณด้วยตัวมันเอง
  • มัลแวร์หรือสปายแวร์ หากคุณดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจ มันสามารถติดตามพฤติกรรมออนไลน์ของคุณและขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้โดยตรงจากอุปกรณ์ของคุณ นอกจากนี้ คนที่คุณไว้ใจยังสามารถแอบติดตั้งสตอล์กเกอร์แวร์บนอุปกรณ์ของคุณได้ด้วย
  • เว็บไซต์และบริการรวบรวมข้อมูล บริการส่วนใหญ่ที่เราใช้จะรวบรวมข้อมูลของเราหรือติดตามพฤติกรรมของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ค้นหาเช่น Google หรือ Facebook นั้นเก็บข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการใช้งานและพฤติกรรมออนไลน์ของเรา

รัฐบาลสามารถติดตามคุณได้หรือไม่หากคุณใช้ VPN?

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ รัฐบาลสามารถตรวจสอบได้ว่าคุณกําลังใช้บริการ VPN อยู่หรือไม่ ตัวอย่างเช่น สิ่งที่เรียกว่าไฟร์วอลล์อันยิ่งใหญ่ของจีนใช้การตรวจสอบแพ็คเก็ตแบบลึกและวิธีการอื่น ๆ เพื่อจดจําและบล็อกการรับส่งข้อมูลผ่าน VPN โชคดีที่เซิร์ฟเวอร์แบบ obfuscated ของ NordVPN ช่วยจัดการกับวิธีการตรวจจับ VPN เหล่านี้ได้ ดังนั้นพวกมันจึงเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมหากคุณเชื่อมต่อจากภูมิภาคที่มีการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด พวกมันจะซ่อนการเชื่อมต่อ VPN ของคุณโดยทําให้ดูเหมือนว่าเป็นการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตแบบทั่วไป

แต่การรับส่งข้อมูลที่ VPN ปิดบังสามารถถูกตรวจสอบได้หรือไม่? มันขึ้นอยู่กับ VPN หาก VPN มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะขอข้อมูลของคุณจากผู้ให้บริการ VPN ผู้ให้บริการจะไม่สามารถส่งมอบบันทึกกิจกรรมของคุณได้ เนื่องจากพวกเขาไม่มีข้อมูลดังกล่าวนั่นเอง

บริการ VPN บางบริการตกลงที่จะปล่อยช่องโหว่สําหรับรัฐบาลเอาไว้ ทําให้หน่วยงานสามารถตรวจสอบการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น VPN ที่รัฐบาลอนุมัติได้รับอนุญาตให้ใช้งานได้ในประเทศจีน อย่างไรก็ตามคุณควรพิจารณาถึงแนวโน้มของประเทศในการควบคุมการสื่อสารออนไลน์ทั้งหมด โดย VPN ในประเทศจีน “ที่ถูกกฎหมาย” นั้นมีแนวโน้มที่จะมีช่องโหว่ดังกล่าว

Google สามารถติดตามคุณได้หรือไม่ เมื่อคุณใช้ VPN?

มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของคุณ หากคุณท่องอินเทอร์เน็ตในขณะที่เชื่อมต่อกับบัญชี Google ของคุณ มันจะสามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณได้ เนื่องจาก VPN จะเปลี่ยนตําแหน่งเสมือนของคุณ ซึ่งอาจดูเหมือนว่าคุณกําลังเข้าถึงเว็บไซต์จากภูมิภาคอื่น แต่ Google จะยังคงสามารถระบุตัวตนของคุณได้

สมมติว่าคุณเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณเมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN จากนั้นคุณเข้าไปที่ YouTube และดูวิดีโอลูกสุนัขที่น่ารัก ครั้งต่อไปที่คุณเข้าไปที่เว็บไซต์ในขณะที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับ VPN คุณอาจยังคงเห็นสุนัขน่ารักในวิดีโอแนะนําของคุณ

มีวิธีอื่นที่ Google สามารถติดตามคุณทางออนไลน์ได้ ตัวอย่างเช่น คุกกี้และลายนิ้วมือของเบราว์เซอร์ยังสามารถติดตามกิจกรรมของคุณสืบย้อนกลับไปยังบัญชีของคุณได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถจำกัดการติดตามให้แคบมากที่สุดได้โดยใช้เบราว์เซอร์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและตัวบล็อกคุกกี้

นายจ้างสามารถติดตามคุณในขณะที่คุณใช้ VPN ได้หรือไม่?

ส่วนใหญ่แล้วสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของ VPN ที่คุณใช้ โดย VPN สําหรับธุรกิจมีฟังก์ชันที่แตกต่างจาก VPN เชิงพาณิชย์ หากคุณเชื่อมต่อกับ VPN สำหรับธุรกิจที่นายจ้างของคุณจัดหาให้ พวกเขาอาจสามารถตรวจสอบคุณได้ VPN สําหรับธุรกิจส่วนใหญ่จะบันทึกกิจกรรมของพนักงานและไม่รับประกันการไม่เปิดเผยตัวตนจากนายจ้างของคุณ

แต่สมมติว่าถ้าคุณใช้ VPN เชิงพาณิชย์ หากสถานที่ทํางานของคุณตรวจสอบพฤติกรรมออนไลน์ของพนักงาน เป็นไปได้ว่าอาจมีการตรวจพบ VPN อย่างไรก็ตามพวกเขาจะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจสอบบนอุปกรณ์ที่คุณใช้ทำงานเพื่อดูว่าคุณทําอะไรออนไลน์ ตัวอย่างเช่น หากบริษัทของคุณติดตั้งโปรแกรมตรวจจับข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ของคุณโดยตรง

จะเลือกใช้ VPN ตัวไหนดีเพื่อป้องกันการติดตาม?

ในขณะที่ VPN นั้นปกป้องคุณจากการติดตาม คุณควรระมัดระวังเมื่อเลือกใช้มัน เราขอแนะนําให้หลีกเลี่ยงบริการ VPN ฟรี เนื่องจากพวกมันมักจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ปัญหาก็คือพวกมันจํานวนมากสร้างรายได้จากการรวบรวมข้อมูลผู้ใช้และขายให้กับบุคคลที่สาม หรือโดยการแสดงโฆษณาจำนวนมากสำหรับคุณ นอกจากนี้พวกมันอาจมีฟังก์ชันที่ค่อนข้างจํากัดอีกด้วย

ข้างล่างนี้คือสิ่งที่คุณควรคำนึงเมื่อเลือกแบรนด์ผู้ให้บริการ VPN:

  • ฟังก์ชันเซิร์ฟเวอร์แบบ obfuscated มันจะปิดบังว่าคุณกำลังใช้ VPN อยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถบล็อกการเชื่อมต่อของคุณได้หากพวกเขาตรวจสอบ มันมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณทํางานจากพื้นที่ที่จํากัดการเชื่อมต่อกับ VPN
  • Kill Switch ฟังก์ชันนี้จะตัดการเชื่อมต่อออนไลน์ของคุณหากบริการ VPN หยุดทํางาน ซึ่งจะทำให้กิจกรรมออนไลน์ของคุณจะไม่ถูกเปิดเผยโดยบังเอิญ
  • การเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN ใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสที่ทันสมัยที่สุดโดยไม่มีช่องโหว่หรือจุดอ่อนใดๆ
  • การป้องกันการรั่วไหลของ DNS ตรวจสอบให้แน่ใจว่า VPN ส่งคําขอ DNS ทั้งหมดของคุณผ่านอุโมงค์เสมือน VPN ที่ปลอดภัยเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณอยู่ตลอดเวลาได้

ดูคุณสมบัติพิเศษที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของ NordVPN ได้ที่นี่

ใช้ การป้องกันภัยคุกคาม โดย NordVPN มันสามารถบล็อกตัวติดตามเว็บได้

คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามีคนใช้ VPN อยู่?

หากคุณรู้ว่าต้องมองหาอะไร มันเป็นเรื่องง่ายที่จะตรวจสอบว่าใครสักคนใช้ VPN อยู่หรือไม่ ด้วย VPN การรับส่งข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมดจะถูกส่งผ่านที่อยู่ IP เดียวของเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่พวกเขากำลังเชื่อมต่ออยู่

หากไม่มี VPN การรับส่งข้อมูลจะแสดงการกําหนดเส้นทางผ่านที่อยู่ IP ที่แตกต่างกันมากมายตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้เข้าชม ที่อยู่ IP ที่เข้ารหัสผ่าน VPN ของพวกเขาจะแตกต่างจากที่อยู่ IP จริง ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบกับที่อยู่ IP VPN ที่เป็นที่รู้จักได้

แต่คุณสามารถซ่อนความจริงข้อนี้ได้โดยใช้ฟังก์ชันเซิร์ฟเวอร์แบบ obfuscated ซึ่งจะปกปิดข้อมูลเมตาของ VPN เพื่อให้ไม่มีใครเห็นว่าคุณกําลังใช้ VPN อยู่

วิธีทดสอบการตรวจจับ VPN อย่างง่าย ๆ

คุณสามารถทดสอบการตรวจจับ VPN อย่างง่าย ๆ ได้โดยการเปรียบเทียบที่อยู่ IP จริงของคุณกับที่อยู่ IP ที่ VPN ของคุณกำหนดให้กับคุณ นี่คือวิธีการ:

  1. จดบันทึกที่อยู่ IP ของคุณซึ่งเครื่องมือค้นหา IP ของเราจะแสดงให้คุณเห็นในทันที
  2. เปิด VPN ของคุณ
  3. ตรวจสอบที่อยู่ IP ของคุณด้วยเครื่องมือค้นหา IP ของเรา ตอนนี้มันควรแสดงที่อยู่ IP อื่นและประเทศที่ VPN ของคุณกำลังเชื่อมต่ออยู่

เชื่อมต่อกับ NordVPN และคุณจะไม่ต้องกังวลกับการรั่วไหลของ IP ของคุณอีกต่อไป นอกจากนี้ฟังก์ชันการตรวจสอบเว็บมืดจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหากข้อมูลประจําตัวของคุณที่เชื่อมโยงกับที่อยู่อีเมลของคุณถูกเปิดเผยไปยังเว็บมืด

can you be tracked with a VPN

ทำอย่างไรได้จึงจะไม่ถูกติดตาม?

การออนไลน์แบบไม่เปิดเผยตัวตนนั้นเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม มีวิธีที่คุณสามารถลดร่องรอยทางดิจิทัลของคุณได้:

  • โปรดใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งที่คุณโพสต์ออนไลน์ ข้อมูลที่คุณเปิดเผยเกี่ยวกับตัวคุณอาจเป็นแหล่งทำเงินสําหรับผู้สอดแนม
  • หลีกเลี่ยง Google แล้วหันไปใช้เครื่องมือค้นหาที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  • ใช้เบราว์เซอร์ที่เน้นความเป็นส่วนตัว
  • ใช้ VPN

สรุปก็คือ หากมีคนตั้งใจติดตามคุณทางออนไลน์ คุณจะต้องระมัดระวังและรอบคอบเป็นอย่างยิ่งในการไม่เปิดเผยตัวตน หากคุณเลือกใช้บริการ VPN อย่างระมัดระวัง มันจะช่วยปกป้องข้อมูลของคุณจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต อาชญากร และการสอดแนมจากรัฐบาลได้ NordVPN มีคุณสมบัติที่มุ่งเน้นความปลอดภัยมากมายเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณทางออนไลน์ไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม

ค้นหาว่าทําไม NordVPN จึงเป็นหนึ่งใน VPN ชั้นนําในตลาด ทดลองใช้งาน 30 วันพร้อมกับการรับประกันคืนเงินของเรา

การรักษาความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เริ่มได้เพียงคลิกเดียว

ปลอดภัยด้วย VPN ชั้นนำของโลก

นอกจากนี้ยังมีให้บริการในภาษา: Deutsch, English และภาษาอื่นๆ.

Ugnė Zieniūtė
Ugnė Zieniūtė Ugnė Zieniūtė
Ugnė Zieniūtė เป็นผู้จัดการเนื้อหาที่ NordVPN ซึ่งชอบศึกษาเกี่ยวกับเทรนด์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ใหม่ๆ เธอเชื่อว่า ทุกคนควรใส่ใจเรื่องความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ของตัวเอง จึงอยากแชร์ข้อมูลที่มีค่ากับผู้อ่าน

เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อประสบการณ์ที่ปลอดภัยและเหมาะกับคุณมากขึ้น การยอมรับจะถือว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้สำหรับการโฆษณาและวิเคราะห์ตามนโยบายคุกกี้ของเรา